จุดเด่นของนวัตกรรมยานยนต์คาเยนน์เจเนอเรชั่นใหม่นี้คือ ระบบเครื่องยนต์แบบพาราเรล ที่รวมเอาทั้งระบบเครื่องยนต์แบบไฮบริดและระบบเครื่องยนต์น้ำมันเชื้อเพลิงควบคู่กันไว้ในเครื่องยนต์ของคาเยนน์รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ ซึ่งทำให้อัตราการบริโภคเชื้อเพลิงนั้นมีอัตราอยู่แค่เพียง 8.2 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร และอัตรา CO2 emissions อยู่ที่ 193 กรัมต่อกิโลเมตรเพียงเท่านั้น (ตามมาตรฐานยุโรป) คาเยนน์ เอส ไฮบริด รถยนต์สปอร์ตเอนกประสงค์รุ่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์แบบไฮบริดนี้ คือการรวบรวมเอาสมรรถนะเครื่องยนต์ขนาด 8 สูบกับขนาด 6 สูบเข้าไว้ด้วยกัน และพร้อมจะอำนวยการประหยัดน้ำมันไว้ได้อย่างน่าประทับใจ ต้องขอขอบคุณเป็นพิเศษสำหรับอุปกรณ์ต่างๆ ที่มีน้ำหนักที่เบาบาง และเปลี่ยนรูปแบบและแนวคิดโดยรวมของตัวรถไป เช่น ระบบขับเคลื่อนทุกล้อด้วยน้ำหนักที่เบาบาง ทำให้น้ำหนักของตัวรถ Cayenne S นี้ลดลงกว่า 180 กิโลกรัมหรือ 400 Ib และด้วยน้ำหนักตัวรถที่เบาบาง ทำให้มาตรฐานความปลอดภัยนั้นเพิ่มมากขึ้นตามไปอีกด้วย ซึ่งข้อดีเหล่านี้ส่งผลให้คาเยนน์ไม่เพียงแต่จะประหยัดน้ำมันขึ้นเพียงเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้ตัวรถและเครื่องยนต์มีเสถียรภาพในการขับขี่มากขึ้นและเกาะถนนขึ้นอีกด้วย สำหรับความกว้างของห้องผู้โดยสารภายในนั้นเพิ่มมากขึ้นด้วยขนาด wheelbase ที่ขยายขึ้นกว่า 40 มิลลิเมตร หรือ ยาวขึ้น 1.6 นิ้ว ซึ่งหมายความว่าคาเยนน์ใหม่นี้จะมีขนาด 48 มิลลิเมตรหรือ 1.9 นิ้วยาวกว่ารุ่นเดิม ถึงแม้รูปลักษณ์ภายนอกจะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น แต่ความเป็นเอกลักษณ์ของรูปลักษณ์ความเป็นปอร์เช่นั้นยังคงอยู่ ความสวยงามของภายในคือจุดเด่นที่ต้องจับตามอง เพราะรูปลักษณ์ของห้องผู้โดยสารภายในถูกสร้างขึ้นด้วยอุปกรณ์คุณภาพสูง เช่น คอนโซลกลางที่ได้รับการออกแบบให้คล้ายกับห้องโดยสารของนักบิน ด้วยการยกขึ้นและเชื่อมต่อกับกล่องเกียร์ได้อย่างลงตัว เบาะหลังยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ 3 ทิศทาง สามารถเอนไปทั้งด้านหน้าและด้านหลังได้มากขึ้นกว่า 160 มิลลิเมตรหรือ 6.3 นิ้ว เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้โดยสารอีกด้วย การตอบสนองแบบอัจฉริยะของเครื่องยนต์ขนาด 3 ลิตร ซุปเปอร์ชาร์จ V6 และมอเตอร์แบบอิเลคทริค ทำให้ Cayenne S Hybrid นั้นสามารถเน้นประสิทธิภาพสูงสุดในระบบต่างๆ โดยรวมได้ โดยที่ขึ้นอยู่กับสภาวะของการขับขี่ คาเยนน์สามารถนำพาท่านไปสู่เป้าหมายด้วยการขับเคลื่อนแบบระบบเครื่องยนต์แบบเดียว หรือการทำงานของสองระบบเครื่องยนต์ 2 ระบบร่วมกันได้เช่นกัน และด้วยการทำงานของสองระบบเครื่องยนต์นี้ทำให้คาเยนน์สามารถผลิตแรงขับเคลื่อนได้สูงสุดกว่า 380 แรงม้าและแรงบิดสูงสุดที่ 580 นิวตันเมตรที่รอบ 1,000 รอบต่อนาที ซึ่งเป็นสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ระดับเดียวกันกับ Cayenne S ที่มีเครื่องยนต์ขนาด V8 เลยทีเดียว
ระบบขับเคลื่อนเครื่องยนต์ทั้งสองแบบนี้ จะทำการเชื่อมโยงต่อกันและกันด้วยระบบคลัตช์แยกแบบอัจฉริยะโดย Hybrid Manager และระบบคลัตช์แยกนี้จะเป็นส่วนที่สำคัญในการทำงานของเครื่องยนต์ใน Cayenne S Hybrid ด้วยการเป็นตัวกำหนดว่าจะทำงานด้วยระบบอิเลคทริคมอเตอร์หรือระบบน้ำมันเชื้อเพลิงเพียงอย่างเดียว หรือใช้ทั้งสองระบบร่วมกัน ดังตัวอย่างเช่น ในการขับขี่ในตัวเมือง ซึ่งผู้ขับขี่อาจเดินทางระยะสั้นด้วยระบบขับเคลื่อนแบบขุมพลังอิเลคทริคเพียงอย่างเดียว ซึ่งทำให้ไม่เป็นมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ไม่มีเสียงและมีอัตราการเร่งอยู่ประมาณ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นำเสนอโดย : kookkai