สำหรับความโดดเด่นของ LC500 คือเรื่องดีไซน์ภายนอกออกแบบไฟหน้าและไฟท้าย ที่ทำให้รถรุ่นนี้ดูล้ำสมัย กระจังหน้ารูปทรงนาฬิกาทรายและมีการใช้วัสดุสีเทาเงินเพิ่มเข้ามาอีก 1 สีในการตกแต่งกรอบไฟหน้าและไฟท้าย รวมถึงล้ออลูมิเนียมอัลลอย ขนาด 20 และ 21ให้เลือกเป็น Option อีกด้วย
LC500 มีการออกแบบห้องโดยสารภายในใหม่และยังได้ให้ความสำคัญกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ให้ความสะดวกในการเข้าออกจากตัวรถ ภายในห้องโดยสายังมีการใช้วัสดุที่หลากหลายในการตกแต่งให้ออกมาดูลงตัวที่สุด ทั้งวัสดุหนังแบบ อัลคันทาร่า หรือ วัสดุพรีเมี่ยมอย่างแมกนีเซี่ยมที่ใช้กับ paddle shifter ที่สำคัญอีกอย่างที่เห็นในห้องโดยสารภายในก็คือ ชุดเครื่องเสียง Mark Levinson มาพร้อมลำโพง 13 ตัว ให้คุณภาพเสียงระดับเทียบเท่ากับ Concert hall
ทางด้านความปลอดภัย รถสปอร์ตที่มีความเร็วสูง Lexus ได้ทำการติดตั้งระบบต่างๆมาไว้อย่างครบถ้วนเช่น ระบบป้องกันการชนล่วงหน้า ที่มาพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน ระบบช่วยเบรคก่อนการชน ระบบ cruise control แบบ All-Speed Dynamic Radar รวมไปถึงระบบแจ้งเตือนเมื่อมีการเปลี่ยนช่องการจราจรที่มาพร้อมระบบช่วยควบคุมพวงมาลัย อีกหนึ่งไฮไลต์คือระบบแจ้งเตือนการส่ายของรถ และระบบปรับไฟสูงต่ำแบบอัจฉริยะ
Lexus LC มีให้เลือกใน 2 รุ่นย่อย คือ LC500 และ LC500h ในรุ่น LC500 ยังมาพร้อมกับขุมพลังเบนซิน V8 แบบ NA ขนาด 5.0 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 471 แรงม้า!!! แรงบิดสูงสุด 540 นิวตันเมตร และยังเป็นคันแรกที่มาพร้อมกับเกียร์อัตโนมัติ Direct Shift 10 จังหวะ สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม ได้ภายใน 4.5 วินาที
.
ส่วนของรุ่น LC500h มาพรัอมกับเครื่องยนต์ V6 ความจุ 3.5 ลิตร ให้พละกำลัง 295 แรงม้า โดยมีกำลังอีก 59 แรงม้า ที่มาจากระบบมอเตอร์ไฟฟ้าลิเธี่ยมไอออน รวมเป็น 354 แรงม้า!!! แรงบิดสูงสุด 472 นิวตันเมตร และยังคันแรกที่ขับเคลื่อนผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ Multi Stage Hybrid 10 จังหวะ มีอัตราเร่งจาก 0-100 ก.ม./ชม. ได้ภายในเวลาต่ำกว่า 5 วินาที ทั้งสองรุ่นได้ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง