คุณรู้หรือไม่? เมื่อประวัติศาตร์โลกต้องจารึก...
วันที่ 21 ตุลาคม 2559 เทสล่า (Tesla) แสดงศักยภาพ ก้าวล้ำอีกอีกขั้นกับการประกาศชัดเจน "Full Self-Driving" หรือรถยนต์ไร้คนขับเต็มรูปแบบ ภายใต้บังเหียนของ อีลอน มัสค์ (Elon Musk) ที่เป็น CEO
ดูเหมือนทุกคำพูดของ อีลอน มัสค์ (Elon Musk) นั้นไม่ใช่เพียงลมปากที่ล่องลอยหายไปกับสายลม เพราะหากย้อนไปช่วงธันวาคม 2015 เขาได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อรายหนึ่งว่า อีก 2 ปีข้างหน้าโลกจะได้พบกับรถยนต์ไร้คนขับเต็มรูปแบบ และดูเหมือนเขาเป็นคนใจร้อนพอดู เพราะเวลานั้นได้มาถึงแล้ว...
ก่อนหน้านี้ Tesla ได้ปล่อยอัพเกรดระบบไร้คนขับแบบกึ่งอัตโนมัติช่วงต้นปี ซึ่งรถยนต์ให้มี ฮารดแวร์รองรับไว้หมดแล้ว เพียงคุณนำรถเข้าไปอัพเกรดซอร์ฟแวร์ โดยการขับขี่ยังอาจต้องพึ่งการตัดสินใจจากมนุษย์ และตั้งโปรแกรมควบคุมไว้เล็กน้อย คือไม่จับพวงมาลัยรถจะค่อย ๆ ชะลอและหยุดลง ถึงกระนั้นก็ยังมีคนใช้ลูกเล่นปล่อยให้รถทำงาน แต่ผู้ขับไม่สนใจต่อการจราจรเลยสักนิดนำไปสู่อุบัติเหตุใหญ่และมีผู้เสียชีวิตด้วย
ล่าสุดเรื่องเหล่านี้จะหมดไปเพราะระบบ "Full Self-Driving" หรือรถยนต์ไร้คนขับเต็มรูปแบบ จะเริ่มใช้ได้ในรถยนต์ Tesla Model S และ Tesla Model X ในช่วงเดือนธันวาคมนี้ (2016)
ทั้งหมดเกิดจากการอัพเกรดฮาร์ดแวร์ให้ครอบคลุมตัวรถ และมีปะสิทธิภาพสูงขึ้นอาทิ กล้อง 8 ตัวกระจายรอบรถจับภาพได้ 360 องศาเป็นระยะไกลถึง 250 เมตร, เซ็นเซอร์อัลตราโซนิก 12 จุดที่อัพเกรดขึ้น แยกตรวจวัตถุแบบแข็งและแบบอ่อนเพิ่มระบะตรวจจับไกลกว่ารุ่นที่แล้ว 2 เท่า, สัญญาณเรดาห์ที่ด้านหน้ารถประมวลผลดีขึ้นไม่มีปัญหาแม้เจอฝนที่ตกหนักหรือฝุ่นละอองรบกวน และสมองกลที่คอยประมวลผลจากฮาร์ดแวร์เร็วขึ้น 40 เท่า โดยมีแผนภูมิระยะทำการของเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ที่ด้านล่าง
แน่อนว่าทั้งหมดนี้ Tesla Model S และ Tesla Model X รุ่นใหม่จะอัพเกรดมาจากโรงงานให้ ส่วนรุ่นเก่าก็สามารถนำรถไปติดตั้งและอัพเกรดฮาร์ดแวร์และซอร์ฟแวร์ก็พร้อมใช้งานได้
ยังมีเรื่องราว Option รถที่น่าสนใจอีกมากมาย ซึ่ง DO YOU KNOW? จะรวบรวมมาให้ดูกัน ครั้งหน้าจะเป็นอะไรนั้นโปรดติดตาม น่าจะถูกใจคนที่ชื่นชอบรถยนต์ไม่มากก็น้อย
#SpyderDoYouKnow #SpyderAutoImport #SSM ติดตามอ่านย้อนหลังได้ที่ spyderautoimport.com/knowledge