The New Porsche Panamera 4S E-Hybrid รถสปอร์ตซาลูนสุดหรูรุ่นปรับโฉม ที่สะท้อนความแตกต่างอย่างเหนือระดับ เติมเต็มสายพันธุ์ plug-in hybrids ด้วยการติดตั้งระบบขับเคลื่อนใหม่ให้พละกำลังสูงสุด 560 แรงม้า และระยะการเดินทางด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียว เพิ่มขึ้นถึง 30 %

เรือธงคันใหม่ของ Panamera มีการพัฒนาให้ดีขึ้นกว่า Panamera Turbo ในรุ่นก่อนหน้า Porsche ยกระดับตัวรถให้เหนือชั้นในเชิงของกลยุทธ์การพัฒนาด้าน E-Performance รถ Panamera รุ่น 4S E-Hybrid คือรุ่นที่เติมเต็มสายพันธุ์ plug-in hybrids ติดตั้งระบบขับเคลื่อนแบบใหม่ กำลังสูงสุด 560 แรงม้า (412 กิโลวัตต์) เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่น ไฮบริด ก่อนหน้า พบว่า พิสัยการเดินทางด้วยพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียว เพิ่มขึ้นอีก 30 เปอร์เซ็นต์ Porsche เซตรถรุ่นนี้เพื่อทำให้มันส่งถ่ายความนุ่มนวล การตอบสนอง และความสะดวกสบาย ประโยชน์ที่ได้รับจากการปรับปรุงชิ้นส่วนต่างๆ ของช่วงล่างและระบบควบคุมการทำงาน สัมผัสได้ชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อทั้งระบบทำงานร่วมกับชุดควบคุมพวงมาลัยไฟฟ้า ที่ผนวกกับประสิทธิภาพของยางติดรถสมรรถนะสูงเจเนอเรชันล่าสุด

Porsche Panamera Turbo S อัตราเร่ง 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 3.1 วินาที กำลังสูงสุด 630 แรงม้า (463 กิโลวัตต์) แรงบิดมหาศาลถึง 820 นิวตันเมตร แรงม้าที่มากขึ้น 80 แรงม้า (59 กิโลวัตต์) แรงบิดเพิ่มขึ้นถึง 50 นิวตันเมตร เมื่อเปรียบเทียบกับ Panamera Turbo เครื่องยนต์สันดาปภายในรุ่นก่อนหน้า ผลลัพธ์คือสมรรถนะการขับที่ดีขึ้นอีกระดับ เมื่อเลือกใช้งาน Sport Plus mode รุ่น Turbo S ให้อัตราเร่งจาก 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 3.1 วินาที การพัฒนาสมรรถนะดังกล่าว เกิดขึ้นใน Weissach และผลิตที่โรงงาน Zuffenhausen ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินขนาด 4.0 ลิตร V8 เทอร์โบคู่ ผ่านการปรับปรุงใหม่หมดจดแทบทุกจุด ส่งผลให้รถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 315 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ทำให้การถ่ายเทกำลังลงสู่พื้นถนนได้อย่างเต็มที่ ภายใต้การควบคุม ที่เเม่นยำ และให้ประสิทธิภาพในการเข้าโค้งอย่างไร้ที่ติ สิ่งที่ Porsche นำมาใช้ในระบบรองรับก็คือ ช่วงล่างถุงลม three-chamber air suspension ระบบควบคุมการทรงตัว Porsche Active Suspension Management (PASM) และ roll stabilisation Porsche Dynamic Chassis Control Sport (PDCC Sport) รวมทั้ง Porsche Torque Vectoring Plus (PTV Plus) ทั้งหมดได้รับการปรับแต่งอย่างละเอียดเพื่อให้การตอบสนองที่เหมาะสมกับสมรรถนะของแต่ละรุ่น new Porsche Panamera Turbo S ผ่านบทพิสูจน์ในเชิงของสมรรถนะการขับขี่ที่ไร้การประนีประนอมใดๆ มาเรียบร้อยแล้วจากการพิชิตสนามระดับตำนาน Nürburgring Nordschleife โดย Lars Kern นักขับทดสอบมือฉมัง การวิ่งจับเวลาต่อรอบในสนามแข่งซึ่งถือเป็นศาสดาของสนามแห่งหนึ่งในโลกความเร็ว ระยะทางรวม 20.832 กิโลเมตร ทำได้ 7:29.81 นาที เป็นบันทึกสถิติใหม่อย่างเป็นทางการในรถยนต์ประเภท “executive cars”

เปิดประตูเข้ามาชมในห้องโดยสารของ 2021 Panamera จะพบกับพวงมาลัยวงใหม่ พร้อมแพดเดิลชิฟท์ชุดใหม่ เบาะคู่หน้ามีฟังก์ชั่นปรับไฟฟ้าทั้งแบบ 8, 14 และ 18 ทิศทาง เครื่องเสียงพรีเมียม Bang & Olufsen ลำโพง 21 ตำแหน่ง มีกำลังขับ 1,455 วัตต์และซับวูฟเฟอร์ 400 วัตต์จะมาแทนที่เครื่องเสียง Bose ลำโพง 14 ตัว กำลังขับ 710 วัตต์ในรุ่นเดิม

ระบบกันสะเทือนและแชสซีส์ได้รับการปรับปรุงใหม่เช่นกันเพื่อยกระดับสมรรถนะการขับขี่ ทีมวิศวกรของ Porsche ยังทำการเพิ่มความเฉียบคมของพวงมาลัยและเปลี่ยนยางชุดใหม่ที่ช่วยลดแรงต้าน พร้อมกับเพิ่มการยึดเกาะถนน ขณะที่รุ่น Turbo S ใช้เบรกเซรามิคคอมโพสิทเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยมีคาลิปเปอร์เบรกสีดำและเหลืองให้ลูกค้าได้เลือกกันอีกด้วย

Panamera 4S E-Hybrid มาพร้อมแบตเตอรี่ 17.9 กิโลวัตต์ วิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าได้ไกลสุด 54 กิโลเมตร ยานยนต์ plug-in hybrid ประสิทธิภาพสูง new Panamera 4S E-Hybrid ยานยนต์กึ่งไฟฟ้าประสานพลังระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 136 แรงม้า (100 กิโลวัตต์) และเครื่องยนต์เบนซิน 2.9 ลิตร V6 เทอร์โบคู่ กำลังสูงสุด 440 แรงม้า (324 กิโลวัตต์) เมื่อเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานร่วม จะมีความแรงระดับ 560 แรงม้า (412 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร ถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ PDK คลัตช์คู่ 8 จังหวะ ชุดแต่งเพิ่มสมรรถนะ Sport Chrono Package อัตราเร่งจาก 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 3.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 298 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ความจุแบตเตอรี่ปรับเพิ่มขึ้นจาก 14.1 เป็น 17.9 กิโลวัตต์ เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้าการปรับปรุงเซลล์แบตเตอรี่และการทำงานของ driving modes ช่วยให้ประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานดีขึ้น Panamera 4S E-Hybrid วิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าได้ไกลสุด 54 กิโลเมตร เมื่อทดสอบตามมาตรฐาน WLTP EAER City (มาตรฐาน NEDC: ทำได้สูงสุดที่ 64 กิโลเมตร)

Porsche Panamera 2021 นอกเหนือจากรุ่นสปอร์ตซาลูน ยังเพิ่มทางเลือกในรูปแบบตัวถัง สปอร์ต ทัวริสโม (Sport Turismo) หรือรุ่นเอ็กเซ็คคูทีฟ (Executive) ฐานล้อยาวขึ้นอยู่กับระบบขับเคลื่อน ในแต่ละรุ่นได้รับการติดตั้งชุดแต่งตัวถัง Sport Design ซึ่งเคยเป็นอุปกรณ์พิเศษในรุ่นที่แล้ว มาเป็นมาตรฐาน ครีบดักอากาศกันชนหน้า ช่องอากาศด้านข้างตัวถังขนาดใหญ่ ไฟหน้าแบบ sin-gle-bar มุมมองด้านหน้าที่ใหม่หมดจดของ Panamera Turbo S สร้างความแตกต่าง จากช่องดักอากาศด้านข้างที่ขยายใหญ่ขึ้นและชิ้นงานตกแต่งตัวถังภายนอกดีไซน์ใหม่ พ่นสีเดียวกับตัวถังทุกชิ้นในแนวราบเน้นย้ำรูปทรงให้รถดูกว้างขึ้น ชุดไฟหน้าภายในโคมของรุ่นเทอร์โบ ได้รับการออกแบบให้แตกต่างจากรุ่นอื่น แถบเรืองแสงท้ายรถปรับปรุงใหม่ วางตำแหน่งต่อเนื่องแนบสนิทไปกับรูปทรงเหนือแนวฝากระโปรงท้าย เป็นจุดเชื่อมต่อสายตาเพิ่มความลื่นไหลระหว่างไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ทั้ง 2 ฝั่ง เสริมมาดสปอร์ตในรุ่น GTS ด้วยไฟท้ายรมดำเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พร้อมฟังก์ชัน dynamic coming/leaving home ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 20 และ 21 นิ้ว กว่า 10 ดีไซน์

Porsche Panamera ยกระดับระบบช่วยเหลือการขับขี่และระบบส่องสว่างให้เหนือชั้นขึ้นไปอีกขั้น อุปกรณ์มาตรฐานระบบ Lane Keeping Assist พร้อมระบบตรวจจับสัญญาณจราจร road sign recognition รวมทั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่เวลากลางคืน Night Vision Assist ระบบ Lane Change Assist ไฟหน้า LED matrix พร้อมระบบ PDLS Plus ระบบช่วยเตือนการจอด Park Assist ซึ่งรวมเอากล้องรอบคัน Surround View และการแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า head-up display